นำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากจีน ซื้อจากเว็บไหนดีที่สุด

7_นำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากจีน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านจากจีน เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านคุณภาพ การออกแบบ และราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ผู้ประกอบการและร้านค้าในไทยจำนวนมาก เริ่มหันมานำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีน แทนการผลิตในประเทศ หรือซื้อจากผู้จัดจำหน่ายภายใน

จุดเด่นของการนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากจีนคือ:

  • ราคาที่ต่ำกว่าตลาดไทย 20–50% เมื่อเทียบกับคุณภาพใกล้เคียงกัน
  • ดีไซน์หลากหลาย ตั้งแต่สไตล์มินิมอล สแกนดิเนเวีย ไปจนถึงลักซ์ชัวรี่โมเดิร์น
  • สามารถสั่งผลิต OEM/ODM สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง
  • เข้าถึงโรงงานและผู้ผลิตได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตัวแทนหลายชั้น
  • ขนส่งสะดวก ด้วยบริการ Shipping จีน–ไทย ครบวงจร

ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้, โซฟา, ชั้นวางของ, ของตกแต่งผนัง, โคมไฟ, หรืออุปกรณ์ในบ้าน คุณสามารถหาได้ครบจากผู้ผลิตในจีนในราคาที่เหมาะสมกับทุกระดับธุรกิจ

Table of Contents

เปรียบเทียบแหล่งนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากจีนและของแต่งบ้านยอดนิยม

1. Alibaba – เหมาะสำหรับการสั่งผลิต และนำเข้าล็อตใหญ่

Alibaba เป็นแพลตฟอร์ม B2B ที่เชื่อมต่อผู้ผลิตในจีนกับผู้ซื้อทั่วโลก

เหมาะสำหรับ:

      • ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการ สั่งผลิต OEM/ODM
      • ร้านที่เน้นสินค้าล็อตใหญ่และต้องการดีไซน์เฉพาะ
      • การสั่งเฟอร์นิเจอร์แบบ “Customize” สำหรับโครงการ เช่น โรงแรม รีสอร์ท หรือร้านอาหาร

จุดเด่น:

      • เจรจาตรงกับโรงงานได้
      • มีฟังก์ชัน RFQ (Request for Quotation) ให้เปรียบเทียบหลายเจ้า
      • ระบบ Trade Assurance ช่วยคุ้มครองผู้ซื้อ

2. 1688 – เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ราคาส่งในจีน

1688 เป็นแพลตฟอร์ม B2B ในประเทศจีน ซึ่งเปิดให้ร้านค้าและโรงงานขายสินค้าภายในประเทศ

เหมาะกับ:

      • ร้านค้าที่ต้องการสั่งของแต่งบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ราคาส่งจำนวนไม่มาก
      • ผู้ค้าปลีกในไทยที่ต้องการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนโดยไม่ต้องใช้ MOQ สูง
      • สินค้าสำเร็จรูปที่มีดีไซน์หลากหลาย เช่น โต๊ะพับ ชั้นวาง เก้าอี้หวาย

จุดเด่น:

      • ราคาถูกกว่า Alibaba อย่างมีนัยสำคัญ
      • มีสินค้าให้เลือกเยอะ โดยเฉพาะในหมวด “ของใช้ตกแต่งบ้าน”
      • เหมาะกับคนที่ใช้บริการ Shipping จีน–ไทย แบบครบวงจร

3. Taobao – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือเน้นสินค้าสไตล์เฉพาะ

Taobao เป็นแพลตฟอร์ม C2C ที่มีความหลากหลายของสินค้าในเชิงดีไซน์

เหมาะกับ:

      • พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการ “ลองตลาด” ก่อนสั่งล็อตใหญ่
      • ร้านของแต่งบ้านแนวไลฟ์สไตล์ เช่น สไตล์เกาหลี ญี่ปุ่น มินิมอล
      • ลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้อจำนวนน้อย (แม้แต่ 1 ชิ้นก็ได้)

จุดเด่น:

      • ราคาถูก
      • ดีไซน์หลากหลายและตามเทรนด์
      • มีรีวิวและภาพสินค้าจากผู้ซื้อจริงจำนวนมาก

4. AliExpress / Made-in-China.com (แหล่งเสริม)

แม้ไม่ใช่แพลตฟอร์มหลักในวงการ “นำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีน” สำหรับพ่อค้าแม่ค้าไทย แต่ AliExpress และ Made-in-China.com เป็นตัวเลือกเสริมที่:

      • เหมาะสำหรับการทดลองสั่งซื้อน้อยชิ้น โดยไม่ต้องพึ่งชิปปิ้ง
      • ใช้งานง่าย มีภาษาอังกฤษ
      • เหมาะกับลูกค้าทั่วไป หรือธุรกิจขนาดเล็กที่อยากเริ่มต้นแบบไม่ยุ่งยาก

ข้อควรระวัง:

      • ราคาสูงกว่าซื้อจาก 1688 หรือ Alibaba
      • ต้องตรวจสอบคุณภาพผู้ขายให้รอบคอบ เพราะไม่มีระบบกลั่นกรองเทียบเท่า B2B

แพลตฟอร์มไหนเหมาะกับใคร?

การเลือกแพลตฟอร์มนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านจากจีนนั้น ไม่สามารถใช้สูตรเดียวกันได้กับทุกธุรกิจ เพราะแต่ละร้านค้า/ผู้ประกอบการมีความต้องการต่างกัน เช่น ขนาดธุรกิจ รูปแบบการขาย ช่องทางจำหน่าย และงบประมาณ ดังนั้นในหัวข้อนี้ เราจะวิเคราะห์ว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับใคร อย่างชัดเจน

Alibaba – สำหรับธุรกิจที่เน้นแบรนด์และงานผลิตเฉพาะ

เหมาะกับ:

    • ผู้ประกอบการที่ต้องการสั่งผลิตเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้าน ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (OEM/ODM)
    • ร้านค้าระดับกลางถึงใหญ่ที่ต้องการควบคุมคุณภาพการผลิต
    • โครงการอสังหาฯ โรงแรม รีสอร์ท ที่ต้องการตกแต่งในสไตล์เฉพาะ

ข้อดี:

    • ติดต่อโรงงานผู้ผลิตโดยตรง
    • สร้างสเปกสินค้าได้เอง เช่น วัสดุ ขนาด สี โลโก้
    • ราคาต่อชิ้นลดลงอย่างมากเมื่อสั่งในปริมาณมาก
    • มีระบบ “Trade Assurance” คุ้มครองผู้ซื้อ

ข้อควรพิจารณา:

    • ต้องมีทุนเริ่มต้นระดับกลางถึงสูง
    • ต้องสื่อสารกับผู้ผลิตและมีระยะเวลาในการเจรจา/ผลิต
    • ต้องวางแผนการขนส่งและโลจิสติกส์ชัดเจน

1688 – สำหรับร้านค้าปลีก-ส่ง ที่ต้องการราคาส่งจากจีน

เหมาะกับ:

    • พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนแบบสำเร็จรูป ไปขายต่อในไทย
    • ร้านค้าของแต่งบ้าน สไตล์มินิมอล ลอฟท์ หรือญี่ปุ่น
    • ผู้ที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากโรงงาน/ร้านค้าจีนโดยตรง โดยไม่ต้องผลิตใหม่

ข้อดี:

    • ราคาต้นทุนต่ำมาก
    • มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก
    • สั่งจำนวนน้อยกว่าบน Alibaba ได้ (เช่น เริ่มที่ 3–5 ชิ้น)

ข้อควรพิจารณา:

    • ต้องใช้ Shipping จีน–ไทย เนื่องจาก 1688 ไม่ส่งออกเอง
    • อินเทอร์เฟซภาษาจีน ต้องมีตัวกลางหรือคนช่วยสั่ง
    • ไม่มีระบบคุ้มครองการซื้อเหมือน Alibaba (ต้องตรวจสอบร้านค้าเอง)

Taobao – สำหรับผู้เริ่มต้น หรือนักขายที่เน้นเทรนด์และดีไซน์

เหมาะกับ:

    • ผู้ขายออนไลน์สายไลฟ์สไตล์ เช่น ขายผ่าน Shopee, TikTok, Instagram
    • ผู้ที่อยากทดสอบตลาดก่อนตัดสินใจนำเข้าเยอะ
    • ร้านค้าสไตล์ “ของตกแต่งบ้านนำเข้า” ที่เน้นความน่ารัก มีดีไซน์

ข้อดี:

    • ดีไซน์หลากหลาย อัปเดตไว
    • สามารถสั่งซื้อจำนวนน้อยมากได้ (1–2 ชิ้น)
    • มีรีวิวจากลูกค้าและภาพถ่ายจริงในระบบ

ข้อควรพิจารณา:

    • ต้องใช้ Shipping จีน–ไทย เช่นกัน
    • ไม่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อเท่า Alibaba
    • ต้องเลือกผู้ขายให้ดี เนื่องจากคุณภาพสินค้าอาจแตกต่างกันมาก

AliExpress / Made-in-China.com – ทางเลือกเสริมสำหรับผู้ไม่ใช้ชิปปิ้ง

เหมาะกับ:

    • บุคคลทั่วไปที่อยากนำเข้าใช้เอง
    • ร้านค้าขนาดเล็กที่ยังไม่พร้อมใช้ชิปปิ้งจีน–ไทย
    • นักรีวิว/ครีเอเตอร์ที่ต้องการสินค้าเฉพาะทาง

ข้อดี:

    • หน้าเว็บเป็นภาษาอังกฤษ ใช้งานง่าย
    • มีระบบจัดส่งมายังไทยโดยตรง (ไม่มีขั้นต่ำ)
    • เหมาะสำหรับการทดสอบสินค้าหรือเลือกแบบก่อนผลิตจริง

ข้อควรพิจารณา:

    • ราคาสูงกว่าซื้อจาก 1688 หรือ Alibaba
    • สินค้าบางประเภทมีคุณภาพไม่คงที่
    • ไม่เหมาะกับการนำเข้าจำนวนมาก

วิธีใช้แต่ละแพลตฟอร์มในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านให้ได้ราคาคุ้มที่สุด

การรู้จักเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากคุณต้องการต้นทุนที่คุ้มค่า และลดความเสี่ยงในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้าน คุณควรรู้จักวิธีใช้แพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ

Alibaba: สั่งผลิตแบบมืออาชีพ

    1. ใช้ฟีเจอร์ “Request for Quotation (RFQ)”
      เพื่อรับใบเสนอราคาจากผู้ผลิตหลายราย และเปรียบเทียบราคาได้รวดเร็ว
    2. เลือกซัพพลายเออร์ที่มีสถานะ “Verified Supplier” และ “Gold Supplier”
      ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องคุณภาพสินค้าและการจัดส่ง
    3. ขอตัวอย่างสินค้าก่อนสั่งล็อตใหญ่ (Sample Order)
      โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์แบบประกอบเอง ควรเช็กคุณภาพวัสดุและวิธีแพ็คให้ปลอดภัย
    4. ต่อรอง MOQ และค่าขนส่งระหว่างประเทศ
      ผู้ผลิตบางรายมีความยืดหยุ่นในการปรับราคาและเงื่อนไขจัดส่ง หากคุณวางแผนซื้อระยะยาว

1688: ราคาส่งจากจีนที่แท้จริง

    1. ใช้คำค้นภาษาจีน เช่น 家具 (เฟอร์นิเจอร์), 家居装饰 (ของตกแต่งบ้าน)
      เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากโรงงานจีนโดยตรง
    2. เลือกร้านที่มีตรา “实力商家” และรีวิวดี
      หมายถึงร้านที่ผ่านการรับรองและมีประวัติขายดีในจีน
    3. รวมหลายรายการจากร้านเดียวเพื่อลดค่าส่งภายในจีน
      แล้วค่อยส่งไปรวมกันที่โกดังชิปปิ้งในจีนเพื่อจัดส่งมายังไทย
    4. ใช้ Shipping ที่มีบริการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่ง
      ช่วยให้คุณมั่นใจว่าสินค้าไม่มีตำหนิ และตรงตามคำสั่งซื้อ

Taobao: ซื้อของแต่งบ้านแบบยืดหยุ่น

    1. ดูรีวิวจากลูกค้าพร้อมภาพถ่ายจริง
      โดยเฉพาะในหมวดเฟอร์นิเจอร์ DIY และของตกแต่งจุกจิก เช่น โคมไฟ ผ้าม่าน
    2. รอช่วงโปร 11.11, 618 หรือ Double 12
      เพื่อให้ได้ราคาลดพิเศษและคูปองจากทั้งร้านค้าและระบบ Taobao
    3. ใช้ Shipping จีน–ไทย ที่รวมออเดอร์หลายร้านได้
      เพราะการซื้อหลายชิ้นจากหลายร้าน จะต้องรวมพัสดุก่อนส่งออก

สรุปภาพรวม: เว็บไหนดีที่สุดในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีน?

ไม่มีคำตอบเดียวที่ใช้ได้กับทุกคน แต่คำตอบที่ดีที่สุดคือ เลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้าน

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้าน

ได้ครับ โดยใช้บริการ Shipping ที่รับสั่งซื้อแทนและชำระเงินในจีนให้ครบวงจร เช่น 1688shipping.in.th

ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต โดยทั่วไปเริ่มที่ 50–100 ชิ้นต่อแบบ แต่สามารถต่อรองได้

มีทั้งระดับธรรมดาและพรีเมียม ควรดูจากวัสดุ รีวิว และตัวอย่างสินค้าก่อนสั่ง

ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีโกดังจีน มีบริการตรวจเช็ก และมีประสบการณ์จัดการเฟอร์นิเจอร์ เช่น 1688shipping.in.th

ติดต่อทีมงาน

หากคุณสนใจ นำเข้าของแต่งบ้านเฟอร์นิเจอร์จีน แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มยังไง หรืออยากให้มีทีมงานช่วยดูแลตั้งแต่ต้นจนจัดส่งถึงมือ ติดต่อเราได้เลย!

ติดต่อเราตอนนี้ เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านอย่างมืออาชีพ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาในการสั่งของจากจีน