ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านจากจีน เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านคุณภาพ การออกแบบ และราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ผู้ประกอบการและร้านค้าในไทยจำนวนมาก เริ่มหันมานำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีน แทนการผลิตในประเทศ หรือซื้อจากผู้จัดจำหน่ายภายใน
จุดเด่นของการนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากจีนคือ:
- ราคาที่ต่ำกว่าตลาดไทย 20–50% เมื่อเทียบกับคุณภาพใกล้เคียงกัน
- ดีไซน์หลากหลาย ตั้งแต่สไตล์มินิมอล สแกนดิเนเวีย ไปจนถึงลักซ์ชัวรี่โมเดิร์น
- สามารถสั่งผลิต OEM/ODM สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง
- เข้าถึงโรงงานและผู้ผลิตได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตัวแทนหลายชั้น
- ขนส่งสะดวก ด้วยบริการ Shipping จีน–ไทย ครบวงจร
ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้, โซฟา, ชั้นวางของ, ของตกแต่งผนัง, โคมไฟ, หรืออุปกรณ์ในบ้าน คุณสามารถหาได้ครบจากผู้ผลิตในจีนในราคาที่เหมาะสมกับทุกระดับธุรกิจ
Table of Contents
Toggleเปรียบเทียบแหล่งนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากจีนและของแต่งบ้านยอดนิยม
1. Alibaba – เหมาะสำหรับการสั่งผลิต และนำเข้าล็อตใหญ่
Alibaba เป็นแพลตฟอร์ม B2B ที่เชื่อมต่อผู้ผลิตในจีนกับผู้ซื้อทั่วโลก
เหมาะสำหรับ:
- ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการ สั่งผลิต OEM/ODM
- ร้านที่เน้นสินค้าล็อตใหญ่และต้องการดีไซน์เฉพาะ
- การสั่งเฟอร์นิเจอร์แบบ “Customize” สำหรับโครงการ เช่น โรงแรม รีสอร์ท หรือร้านอาหาร
จุดเด่น:
- เจรจาตรงกับโรงงานได้
- มีฟังก์ชัน RFQ (Request for Quotation) ให้เปรียบเทียบหลายเจ้า
- ระบบ Trade Assurance ช่วยคุ้มครองผู้ซื้อ
2. 1688 – เหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องการเฟอร์นิเจอร์ราคาส่งในจีน
1688 เป็นแพลตฟอร์ม B2B ในประเทศจีน ซึ่งเปิดให้ร้านค้าและโรงงานขายสินค้าภายในประเทศ
เหมาะกับ:
- ร้านค้าที่ต้องการสั่งของแต่งบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ราคาส่งจำนวนไม่มาก
- ผู้ค้าปลีกในไทยที่ต้องการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนโดยไม่ต้องใช้ MOQ สูง
- สินค้าสำเร็จรูปที่มีดีไซน์หลากหลาย เช่น โต๊ะพับ ชั้นวาง เก้าอี้หวาย
จุดเด่น:
- ราคาถูกกว่า Alibaba อย่างมีนัยสำคัญ
- มีสินค้าให้เลือกเยอะ โดยเฉพาะในหมวด “ของใช้ตกแต่งบ้าน”
- เหมาะกับคนที่ใช้บริการ Shipping จีน–ไทย แบบครบวงจร
3. Taobao – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือเน้นสินค้าสไตล์เฉพาะ
Taobao เป็นแพลตฟอร์ม C2C ที่มีความหลากหลายของสินค้าในเชิงดีไซน์
เหมาะกับ:
- พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการ “ลองตลาด” ก่อนสั่งล็อตใหญ่
- ร้านของแต่งบ้านแนวไลฟ์สไตล์ เช่น สไตล์เกาหลี ญี่ปุ่น มินิมอล
- ลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้อจำนวนน้อย (แม้แต่ 1 ชิ้นก็ได้)
จุดเด่น:
- ราคาถูก
- ดีไซน์หลากหลายและตามเทรนด์
- มีรีวิวและภาพสินค้าจากผู้ซื้อจริงจำนวนมาก
4. AliExpress / Made-in-China.com (แหล่งเสริม)
แม้ไม่ใช่แพลตฟอร์มหลักในวงการ “นำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีน” สำหรับพ่อค้าแม่ค้าไทย แต่ AliExpress และ Made-in-China.com เป็นตัวเลือกเสริมที่:
- เหมาะสำหรับการทดลองสั่งซื้อน้อยชิ้น โดยไม่ต้องพึ่งชิปปิ้ง
- ใช้งานง่าย มีภาษาอังกฤษ
- เหมาะกับลูกค้าทั่วไป หรือธุรกิจขนาดเล็กที่อยากเริ่มต้นแบบไม่ยุ่งยาก
ข้อควรระวัง:
- ราคาสูงกว่าซื้อจาก 1688 หรือ Alibaba
- ต้องตรวจสอบคุณภาพผู้ขายให้รอบคอบ เพราะไม่มีระบบกลั่นกรองเทียบเท่า B2B
แพลตฟอร์มไหนเหมาะกับใคร?
การเลือกแพลตฟอร์มนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านจากจีนนั้น ไม่สามารถใช้สูตรเดียวกันได้กับทุกธุรกิจ เพราะแต่ละร้านค้า/ผู้ประกอบการมีความต้องการต่างกัน เช่น ขนาดธุรกิจ รูปแบบการขาย ช่องทางจำหน่าย และงบประมาณ ดังนั้นในหัวข้อนี้ เราจะวิเคราะห์ว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับใคร อย่างชัดเจน
Alibaba – สำหรับธุรกิจที่เน้นแบรนด์และงานผลิตเฉพาะ
เหมาะกับ:
- ผู้ประกอบการที่ต้องการสั่งผลิตเฟอร์นิเจอร์หรือของแต่งบ้าน ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง (OEM/ODM)
- ร้านค้าระดับกลางถึงใหญ่ที่ต้องการควบคุมคุณภาพการผลิต
- โครงการอสังหาฯ โรงแรม รีสอร์ท ที่ต้องการตกแต่งในสไตล์เฉพาะ
ข้อดี:
- ติดต่อโรงงานผู้ผลิตโดยตรง
- สร้างสเปกสินค้าได้เอง เช่น วัสดุ ขนาด สี โลโก้
- ราคาต่อชิ้นลดลงอย่างมากเมื่อสั่งในปริมาณมาก
- มีระบบ “Trade Assurance” คุ้มครองผู้ซื้อ
ข้อควรพิจารณา:
- ต้องมีทุนเริ่มต้นระดับกลางถึงสูง
- ต้องสื่อสารกับผู้ผลิตและมีระยะเวลาในการเจรจา/ผลิต
- ต้องวางแผนการขนส่งและโลจิสติกส์ชัดเจน
1688 – สำหรับร้านค้าปลีก-ส่ง ที่ต้องการราคาส่งจากจีน
เหมาะกับ:
- พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนแบบสำเร็จรูป ไปขายต่อในไทย
- ร้านค้าของแต่งบ้าน สไตล์มินิมอล ลอฟท์ หรือญี่ปุ่น
- ผู้ที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากโรงงาน/ร้านค้าจีนโดยตรง โดยไม่ต้องผลิตใหม่
ข้อดี:
- ราคาต้นทุนต่ำมาก
- มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก
- สั่งจำนวนน้อยกว่าบน Alibaba ได้ (เช่น เริ่มที่ 3–5 ชิ้น)
ข้อควรพิจารณา:
- ต้องใช้ Shipping จีน–ไทย เนื่องจาก 1688 ไม่ส่งออกเอง
- อินเทอร์เฟซภาษาจีน ต้องมีตัวกลางหรือคนช่วยสั่ง
- ไม่มีระบบคุ้มครองการซื้อเหมือน Alibaba (ต้องตรวจสอบร้านค้าเอง)
Taobao – สำหรับผู้เริ่มต้น หรือนักขายที่เน้นเทรนด์และดีไซน์
เหมาะกับ:
- ผู้ขายออนไลน์สายไลฟ์สไตล์ เช่น ขายผ่าน Shopee, TikTok, Instagram
- ผู้ที่อยากทดสอบตลาดก่อนตัดสินใจนำเข้าเยอะ
- ร้านค้าสไตล์ “ของตกแต่งบ้านนำเข้า” ที่เน้นความน่ารัก มีดีไซน์
ข้อดี:
- ดีไซน์หลากหลาย อัปเดตไว
- สามารถสั่งซื้อจำนวนน้อยมากได้ (1–2 ชิ้น)
- มีรีวิวจากลูกค้าและภาพถ่ายจริงในระบบ
ข้อควรพิจารณา:
- ต้องใช้ Shipping จีน–ไทย เช่นกัน
- ไม่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อเท่า Alibaba
- ต้องเลือกผู้ขายให้ดี เนื่องจากคุณภาพสินค้าอาจแตกต่างกันมาก
AliExpress / Made-in-China.com – ทางเลือกเสริมสำหรับผู้ไม่ใช้ชิปปิ้ง
เหมาะกับ:
- บุคคลทั่วไปที่อยากนำเข้าใช้เอง
- ร้านค้าขนาดเล็กที่ยังไม่พร้อมใช้ชิปปิ้งจีน–ไทย
- นักรีวิว/ครีเอเตอร์ที่ต้องการสินค้าเฉพาะทาง
ข้อดี:
- หน้าเว็บเป็นภาษาอังกฤษ ใช้งานง่าย
- มีระบบจัดส่งมายังไทยโดยตรง (ไม่มีขั้นต่ำ)
- เหมาะสำหรับการทดสอบสินค้าหรือเลือกแบบก่อนผลิตจริง
ข้อควรพิจารณา:
- ราคาสูงกว่าซื้อจาก 1688 หรือ Alibaba
- สินค้าบางประเภทมีคุณภาพไม่คงที่
- ไม่เหมาะกับการนำเข้าจำนวนมาก
วิธีใช้แต่ละแพลตฟอร์มในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านให้ได้ราคาคุ้มที่สุด
การรู้จักเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากคุณต้องการต้นทุนที่คุ้มค่า และลดความเสี่ยงในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้าน คุณควรรู้จักวิธีใช้แพลตฟอร์มอย่างมีประสิทธิภาพ
Alibaba: สั่งผลิตแบบมืออาชีพ
- ใช้ฟีเจอร์ “Request for Quotation (RFQ)”
เพื่อรับใบเสนอราคาจากผู้ผลิตหลายราย และเปรียบเทียบราคาได้รวดเร็ว - เลือกซัพพลายเออร์ที่มีสถานะ “Verified Supplier” และ “Gold Supplier”
ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องคุณภาพสินค้าและการจัดส่ง - ขอตัวอย่างสินค้าก่อนสั่งล็อตใหญ่ (Sample Order)
โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์แบบประกอบเอง ควรเช็กคุณภาพวัสดุและวิธีแพ็คให้ปลอดภัย - ต่อรอง MOQ และค่าขนส่งระหว่างประเทศ
ผู้ผลิตบางรายมีความยืดหยุ่นในการปรับราคาและเงื่อนไขจัดส่ง หากคุณวางแผนซื้อระยะยาว
- ใช้ฟีเจอร์ “Request for Quotation (RFQ)”
1688: ราคาส่งจากจีนที่แท้จริง
- ใช้คำค้นภาษาจีน เช่น 家具 (เฟอร์นิเจอร์), 家居装饰 (ของตกแต่งบ้าน)
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากโรงงานจีนโดยตรง - เลือกร้านที่มีตรา “实力商家” และรีวิวดี
หมายถึงร้านที่ผ่านการรับรองและมีประวัติขายดีในจีน - รวมหลายรายการจากร้านเดียวเพื่อลดค่าส่งภายในจีน
แล้วค่อยส่งไปรวมกันที่โกดังชิปปิ้งในจีนเพื่อจัดส่งมายังไทย - ใช้ Shipping ที่มีบริการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่ง
ช่วยให้คุณมั่นใจว่าสินค้าไม่มีตำหนิ และตรงตามคำสั่งซื้อ
- ใช้คำค้นภาษาจีน เช่น 家具 (เฟอร์นิเจอร์), 家居装饰 (ของตกแต่งบ้าน)
Taobao: ซื้อของแต่งบ้านแบบยืดหยุ่น
- ดูรีวิวจากลูกค้าพร้อมภาพถ่ายจริง
โดยเฉพาะในหมวดเฟอร์นิเจอร์ DIY และของตกแต่งจุกจิก เช่น โคมไฟ ผ้าม่าน - รอช่วงโปร 11.11, 618 หรือ Double 12
เพื่อให้ได้ราคาลดพิเศษและคูปองจากทั้งร้านค้าและระบบ Taobao - ใช้ Shipping จีน–ไทย ที่รวมออเดอร์หลายร้านได้
เพราะการซื้อหลายชิ้นจากหลายร้าน จะต้องรวมพัสดุก่อนส่งออก
- ดูรีวิวจากลูกค้าพร้อมภาพถ่ายจริง
สรุปภาพรวม: เว็บไหนดีที่สุดในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีน?
ไม่มีคำตอบเดียวที่ใช้ได้กับทุกคน แต่คำตอบที่ดีที่สุดคือ เลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้าน
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้าน
Q: ถ้าไม่มีบัญชี Alipay จะสั่งจาก 1688 หรือ Taobao ได้ไหม?
ได้ครับ โดยใช้บริการ Shipping ที่รับสั่งซื้อแทนและชำระเงินในจีนให้ครบวงจร เช่น 1688shipping.in.th
Q: สั่งจาก Alibaba ต้องสั่งขั้นต่ำเท่าไหร่?
ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต โดยทั่วไปเริ่มที่ 50–100 ชิ้นต่อแบบ แต่สามารถต่อรองได้
Q: ของตกแต่งบ้านจีนคุณภาพพอใช้ไหม?
มีทั้งระดับธรรมดาและพรีเมียม ควรดูจากวัสดุ รีวิว และตัวอย่างสินค้าก่อนสั่ง
Q: ใช้ Shipping เจ้าไหนดีในการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์?
ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีโกดังจีน มีบริการตรวจเช็ก และมีประสบการณ์จัดการเฟอร์นิเจอร์ เช่น 1688shipping.in.th
ติดต่อทีมงาน
หากคุณสนใจ นำเข้าของแต่งบ้านเฟอร์นิเจอร์จีน แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มยังไง หรืออยากให้มีทีมงานช่วยดูแลตั้งแต่ต้นจนจัดส่งถึงมือ ติดต่อเราได้เลย!
ติดต่อเราตอนนี้ เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จีนและของแต่งบ้านอย่างมืออาชีพ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาในการสั่งของจากจีน